วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มอเตอร์ไซต์ประหยัดน้ำมันกว่ารถยนต์ แต่ก่อมลพิษมากกว่า

สาระล่าสุดจากรายการ Mythbuster ที่ทดสอบตำนานเรื่องที่มีบางคนคิดว่า มอเตอร์ไซต์ก่อมลพิษน้อยกว่ารถยนต์เพราะใช้น้ำมันน้อยกว่า...จริงเหรอ ทดลองโดยการนำรถยนต์และมอเตอร์ไซต์จากช่วงยุค 80s, 90s, และ 2000s และเทียบค่าต่างๆของพาหนะทั้งสองประเภทในแต่ละยุค โดยรถยนต์ที่นำมาทดสอบนั้น เป้นรถเก๋ง4ประตูขนาดกลาง มอเตอร์ไซต์เป็นพวก big bike ที่ขนาดเครื่องยนต์น่าจะเกิน 600 cc โดยรถแต่ละยุคที่นำมาทดสอบนั้น เลือกยี่ห้อและรุ่นจากการอ้างอิงยอดขายเฉลี่ยของยุคนั้นว่า รุ่นไหนคือรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ขายดีที่สุดในอเมริกาในยุคนั้น ในการทดสอบ รถยนต์ยุค 80 เป็นรถเก๋งขนาดกลางของค่าย GM (น่าจะ Oldsmobile), รถยนต์ 90 เป็น Honda Accord ตาเพชร, และรถยนต์ยุค 2000s เป็น Ford Taurus, ส่วนมอเตอร์ไซต์นั้น รถมอเตอร์ไซต์ยุค 80 เป็น Honda CBR ส่วนของยุค 90s และ 2000s ไม่แน่ใจ แต่รถมอเตอร์ไซต์ยุค 90s น่าจะเป็นรถญี่ปุ่น [img]http://www.badweatherbikers.com/buell/messages/4062/653776.jpg[/img] ผลการใช้เชื้อเพลิงนั้น แน่นอว่า มอเตอร์ไซต์ใช้น้อยกว่า เพราะมันเบากว่า เครื่องยนต์เล็กกว่า แต่พอมาดูค่าการปล่อยก๊าซต่างๆโดยเฉพาะที่ก่อมลพิษและมีผลต่อสุขภาพคนเรานั้น... [img]http://www.ridexperience.com/files/2011/10/emissions.png[/img] มอเตอร์ไซต์ค่าออกมามากกว่ารถยนต์หลายเท่าครับ ห่างกันแบบมากอย่างเห้นได้ชัดเจน ทั้งคาร์บอนมอนน็อกไซต์ ไฮโดรคาร์บอน สูงกว่ารถยนต์ในยุคเดียวกันเป็นร้อยถึงเป้นพันเท่า พราะรถยนต์มีการพัฒนาที่ต่อเนื่องกว่าครับ เรื่องการใช้เชื้อเพลิง ตัวกรองมลพิษ และพลศาสตร์อากาศ และมอเตอร์ไซต์ที่เมืองนอกอย่างอเมริกานั้น เครื่องยนต์ต่ำสุดก็มักจะเป้นพวก 250 ซีซี แต่พวกรุ่นใหม่ๆก็จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดและมีแคตตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ ติดตั้งมาให้...และมอเตอร์ไซต์นั้นจริงๆแล้ว มันต้านมมากกว่ารถยนต์อีกนะครับ สิ่งหนึ่งที่ทำให้มันต้านลมคือ ตัวคนขับนั่นแหล่ะค ในรายการนี้ พิธีกรสองคน เลยได้ลองพยายามลบคำสบประมาทด้านนี้ของมอเตอร์ไซต์ ด้วยการนำเอามอเตอร์ไซต์วิบากดรุ่นใหม่คันหนึ่ง เครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด มีแคตตาไลติคฯ มาทำการจำลองการชับชี่ในสนามปิด ดโยให้คล้ายกับการขับในเมืองและบนฟรีเวย์โดยรอบแรกก็ขับในภสพารถปติ แต่รอบสอง มอเตอร์ไซต์ถุกดัดแปลงให้ลูลมมากขึ้น ด้วยการถอดแฟร์ริ่งบางส่วนออก และทำโครงสร้างรูปวงกลมเพื่อไม่ให้มีแรงต้านลมเพราะคนับ แบบในภาพ http://www.youtube.com/watch?v=krCHwg3IeDo ผลสรุปออกมาคือ ประหยัดและก่อมลพิษน้อยกว่าปกติเล็กน้อย แต่ค่ามลพิษก็ยังสูงอยู่ดีถ้าเทียบกับรถยนต์ ผมว่ามอเตอร์ไซต์ที่ขายในไทยน่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป้นเครื่องสี่จังหวะและเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แต่ส่วนใหญ๋ก็ยังจ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาบูเรเตอร์และไม่มีแคตตาไลติคฯ

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สถิติน่าขนลุก เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ในประเทศเยอรมันณี

จากสารคดีสั้นๆคั่นเวลารอเปลี่ยรายการของช่อง True Explore 3 ในเยอรมันณี แต่ละปีมีรถถูกขโมยกว่า 30,000 คัน และเกือบครึ่ง ติดตามคืนมาไม่ได้ เจ้าของทำได้แค่ ทำใจ รถพวกนี้ถูกขโมยไปแยกส่วนขายส่งเป้นอะไหล่ ไปทางแถบยุโรปตจะวันออก ซึ่งมีความต้องการสูงมาก ใช้เวลาในการแยกส่วนแค่แป๊บเดียว และสถานที่แยกส่วน มักเป้นพวกโกดังให้เช่า ที่เจ้าของไม่รู้เรื่งออะไรเลย แต่ต้องมาพลอยซวยโดนสอบไปด้วย แถมพอโจรพวกนี้จากไป ก็ทิ้งเศษซากเอาไว้เป้นขยะรถที่อีก อะไหล่พวกนี้ถูกวางขายแถบชายแดนเยอรมันณีกันดาษเดื่อน 80%ของอะไหล่รถที่ขายในตลาดแถบชายแดนนั้น ขโมยมาทั้งนั้น ที่มีคนซ์้อเยอะเพราะราคาถูกกว่าของจริงจากศูนย์บริการเกือบครึ่งหนึ่ง อะไหล่แท้ของศูนย์บริการมีราคาสูง แม้จะเป็นรถยุโรปและในประเทศแถบยุโรปก็ตาม พ่อค้าของโจรพวกนั้นยังมีใบรับประกันปลอมอีกด้วยนะ แม้ตำรวจจะตามจับได้ แต่ก็ยากที่จะตามหาว่าเจ้าของเดิมของรถพวกนี้ หรืออะไหล่พวกนี้คือใคร และรถทุกแบบกลายเป้นเป้าหมายได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ Eco cars ยันรถหรูหราราคาแพง และรถที่ถูกขโมยมาส่วนมาก โดนขโมยกลางวันแสกๆ ในที่จอดรถสาธารณะ ไหนๆชาวเยอรมันก็จริงจังเรื่องมารยาทในการ ฟังเพลงแบบใส่หูฟังในที่สาธารณะ ก็น่าจะปลูกจิตสำนึกเรื่อง เลิกอุดหนุนอะไหล่รถยนต์มือสองจากโจรพวกนี้ด้วยก็ดีนะ แล้วจำได้คร่าวๆว่ารายการ mega clever เคยกล่าวำว้ว่า ในเยอรมันณี มีอาชญากรรมเกิดขึนเฉลี่ยราวๆทุก 8 วินาที

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ทำไมไม่ควรข้าม 3G ไป 4G

คลื่น 2100 MHz เอาไปทำอะไรได้บ้าง คลื่นย่าน 2100 MHz Band1 (Downlink 2110 – 2170 MHz และ Uplink 1920 – 1980 MHz) ที่ประมูลกันในประเทศไทยในนี้ ตามที่ ITU กำหนดมานั้นมีไว้ให้บริการสำหรับการโทรคมนาคมระบบ WCDMA รวมถึง LTE ด้วยครับ ทั้งนี้มีประเทศที่ใช้คลื่นย่าน 2100 MHz เดียวกันนี้ติดตั้ง 4G LTE คือญี่ปุ่นครับ และที่สำคัญ iPhone 5 รุ่นที่จำหน่ายนอกสหรัฐฯ ก็รองรับคลื่นย่านนี้ในระบบ LTE ด้วยเหมือนกัน และสำหรับเงื่อนไขใบอนุญาตที่ระบุไว้ในข้อกำหนดการประมูลของ กสทช. ดังนี้ ข้อ ๑๕ ขอบเขตการอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตมีสิทธิให้บริการโทรคมนาคมในลักษณะของการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม เพื่อให้เช่าใช้และเพื่อให้บริการโทรคมนาคม (Network Provider and Service Provider) และการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Facility) โดยมีขอบเขตในการประกอบกิจการโทรคมนาคมดังกล่าวทั่วราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ กิจการโทรคมนาคมที่ได้รับอนุญาต ให้รวมถึงลักษณะและประเภทของบริการ ดังนี้ (๑) บริการโครงข่ายโทรคมนาคมไร้สาย (๒) บริการโทรคมนาคม ดังนี้ (๒.๑) บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (๒.๒) บริการพหุสื่อความเร็วสูง (Public Broadband Multimedia Service) (๒.๓) บริการมูลค่าเพิ่ม (Value-added Service) ของบริการโทรคมนาคมที่ได้รับอนุญาต (๒.๔) บริการขายส่งบริการ สำหรับบริการในข้อ (๒.๑) (๒.๒) และ (๒.๓) (๓) บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Facility) ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะประกอบกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จะสังเกตว่าในขอบเขตใบอนุญาต ไม่ได้มีการระบุเทคโนโลยีการให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น หมายความว่า ถ้าผู้ให้บริการรายใดพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม ก็สามารถแบ่งคลื่น 2100 ที่ประมูลได้บางส่วน (หรือทั้งหมด) ไปทำ LTE ด้วยก็ได้ครับ แล้วทำไมไม่ติดตั้ง 4G ไปเลย? ใช่ว่าของใหม่ทุกอย่างจะดีกว่าของเก่านะครับ คือระบบ 4G LTE เนี่ย เนื่องจากมันเปลี่ยนระบบจาก 2G/3G ไปเกือบหมดเลย ทำให้มีปัญหาตัวใหญ่สุดคือ “มันยังโทรออกผ่าน LTE ตรงๆ ได้ไม่สมบูรณ์” มีใครอยากได้มือถือมาเล่นเน็ตอย่างเดียวไม่โทรออกบ้างมั้ยครับ (มีแหละ แต่คงไม่เยอะขนาดนั้นหรอก) หมายความว่าถ้าผู้ให้บริการติดตั้ง LTE อย่างเดียว การโทรออกทั้งหมดก็ต้องโรมมิ่งกลับไปยังเครือข่าย 2G ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทาน และต้องโอนคลื่นความถี่พร้อมทรัพย์สินคืนไปให้ผู้ให้สัมปทาน แล้วจะประมูลคลื่นไปทำไม? และพอ 2G หมดสัญญาสัมปทานแล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ด้วย (แต่เดี๋ยวพอทรูมูฟหมดสัญญาสัมปทานปีหน้าแล้วก็รู้กัน)สาเหตุสำคัญอีกประการคือ นอกจากไอโฟนห้าแล้ว ทุกวันนี้มือถือที่รองรับ LTE ยังมีในตลาดไม่กี่สิบรุ่นเท่านั้น แถมราคาก็ยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับไอโฟนนั่นแหละครับ คนที่มีกำลังทรัพย์พอจะใช้ได้ก็คงเป็นคนในกรุงอย่างเดียว สรุปแล้วคือ… ไม่มีประโยชน์ที่จะข้ามไปติดตั้ง LTE เพียวๆ โดยไม่ลงทุนติดตั้งระบบ 3G WCDMA ครับ แต่ถ้าติดตั้งปนกันไปเลยบางพื้นที่ก็เป็นไปได้ (เช่นในห้าง) ติดตั้ง 3G 1-2 ช่องสัญญาณ แล้วเอา LTE มาช่วยลดภาระการใช้งานช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตในช่องที่เหลือ แบบนี้ก็จะทำให้ใช้งานช่องสัญญาณได้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ ทำไม LTE โทรออกไม่ได้? อันที่จริงจะบอกว่าโทรไม่ได้ก็ไม่เชิงนะครับ แต่เนื่องจาก LTE เนี่ย เป็น IP-Based network คือมันเป็นโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายระยะไกลเต็มรูปแบบเลย คือตั้งแต่มือถือจับสัญญาณได้ ก็ได้ IP แล้ว ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแยก แล้วโยนระบบ circuit switch ที่ใช้เป็นช่องสัญญาณสำหรับการคุยกันด้วยเสียงทิ้งไป ทำให้บริการแบบเดิมๆ ที่อิงกับระบบ circuit switch คือ โทรศัพท์ผ่านระบบมือถือ หรือแม้กระทั่ง SMS ใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง ต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบใหม่ทั้งหมด เป็นการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตแทน (นึกภาพเหมือนเราต่อ WiFi โดยไม่มีสัญญาณมือถือได้ครับ ลักษณะเดียวกัน) ปัญหาที่สองคือ แล้วเราจะอ้างอิงเบอร์ได้ยังไงในเมื่ออยู่บน internet มันไม่มีเบอร์โทรศัพท์ (มีแต่หมายเลข IP) ปัญหาที่สาม (ถ้าเกิดโทรได้) ถ้าโทรๆ อยู่สัญญาณ LTE หาย ต้อง switch กลับไปหา 2G/3G จะทำไงให้คุยได้ต่อเนื่อง ปัญหาที่ว่ามานี้ ทางออกกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาครับ โดยใช้เทคโนโลยีชื่อว่า VoLTE (Voice over LTE) ซึ่งมันใหม่กว่า LTE ปกติอีก และอุปกรณ์ที่รองรับก็มีน้อยมากๆ เข้าไปอีกครับ (เท่าที่ตรวจสอบมาได้มี Samsung Galaxy SIII และ LG Optimus II รุ่นพิเศษที่วางขายในเกาหลีเท่านั้น)